วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา เนื้อทองคำ ตำหรับชาวพิจิตร

หลวงพ่อเงินพิมพ์ขี้ตาเนื้อทองคำ

ขี้ตาเมื่อถอดหุ่นขี้ผึงออกจากบล๊อคแล้วนายช่างจะไม่ค่อยพิธีพิถัน แต่งพิมพ์กันนัก บล๊อคที่ใช้ก็มี 2 อันประกบกัน พอถอดออกมาก็จะทำให้หุ่นเทียนหรือหุ่นขี้ผึ้งนั้นมีรอบตะเข็บด้านข้าง ถ้าไม่นำมาแต่งก็จะมีลอยประกบของบล็อคปรากฎ ให้เห็นตอนหล่อเททองลงไปแล้ว    เนื่องจากพิมพ์บล๊อคขี้ตาเป็นพระยุคแรก ยังมิได้พัฒนาอะไรมาก ร่องรอยการสร้างจึงปรากฎให้เห็นอยู่หลายอย่าง ส่วนพิมพ์เบ้าทุบหรือพิมพ์นิยมนั้นสร้างกันไปภายหลังจึงทำให้มีการตกแต่ง เพิ่มความสวยงามเพิ่มขึ้นตามความต้องการได้ ความจริงพิมพ์นิยมเมื่อถอดเป็นหุ่นเทียนก็มีตะเข็บข้างมาก่อนแต่ช่างมีความ ประณีตได้นำมาตกแต่งลบตะเข็บด้านข้างนอกออกจนเรียบ ร้อยจึงมองไม่เห็นร่องรอยตะเข็บ แต่พิมพ์นิยมบางองค์ที่ไม่ได้แต่งให้เรียบร้อยนักก็จะยังมีรอยตะเข็บให้เห็น อยู่เหมือนกัน    แต่ที่แน่ ๆ นักสะสมพระพิมพ์ลอยองค์ควรพิจารณาให้ถ่องแท้ก็คือ พระพิมพ์ลอยองค์บล๊อคขี้ตานี้ ฐานจะต้องไม่มีชนวน เพราะเป็นการหล่อแบบเบ้าหก หรือเบ้ากระดก และเป็นการหล่อทีละองค์หรือเบ้าละองค์เท่านั้น    มีคำบอกกล่าวกันต่อมาว่า พระพิมพ์บล๊อคขี้ตานี้หล่อโดยช่างทองคนจีนที่มีภูมิลำเนาอยู่ใกล้ ๆ วัดบางคลานนั้นแหละ นายช่างคนนี้มีบล๊อคอยู่และมีคนมาจ้างหล่อเสมอคราวละไม่มาก บางคนก็เอาโลหะมาเอง ฉะนั้นเนี้อพระจึงมีความแตกต่างกันออกไป และต้องขอบอกไว้สักนิดว่า เพระเนื้อพิเศษ เช่น สัมฤทธิ์ หรือเนื้อแบบขันลงหินนั้น มีเนื้อเงินบริสุทธิ์ก็มีการสร้างไว้เช่นกัน แต่การซื้อหาต้องระวัง คือต้องดูเป็น และพระเหล่านี้ต้องมีความเก่า ปัจจุบันของปลอมทำได้เหมือนจริง ๆ มีฝืมือมาก ทั้งมีผลิตจากพิษณุโลก และนครสวรรค์ ฝีมือพิมพ์ลอยองค์ทำเทียมใช้ได้ทีเดียว เสียแต่เนื้อเท่านั้นที่สดเกินไปการซื้อต้องระวังให้ดี ถ้าไม่แม่นจริงของให้ไปแห่เสียก่อนอย่าโลภจะทำให้พลาดได้ เห็นของราคาถูกหน่อยรีบซื้อจะเจ็บใจภายหลังเพราะพวกมือผีเหล่านี้ก็พยายามทำ ให้เหมือนของจริงอยู่แล้ว

    ช่างจีนที่อยู่ใกล้ ๆ วัดนี้ได้รับจ้างหล่อพระพิมพ์ขี้ตามานาน แกทำหุ่นไว้ใครมาจ้างก็รีบทำให้ เป่าทองที่จะหล่อด้วยเครื่องพ่นทอง แล้วเป่าเบ้าให้ร้อนไปในขณะเดียวกัน พอโลหะหลอมเหลวได้ทีก็จะเทลงเบ้าทันที พระพิมพ์บล็อคขี้ตาจึงมีลักษณะแบบนี้เกือบทั้งหมดคือ เทครั้งละองค์ แต่อาจจำทำทีละมาก ๆ ก็ได้ โลหะที่เทลงไปก็จะหยอดเทให้พอเหมาะแค่องค์เดียว ฉะนั้นจึงเห็นได้ว่า ถ้าโลหะที่เทลงไปมีมากหน่อย ฐานขององค์พระก็จะหนา ถ้าโลหะน้อยฐานก็จะบาง นี้คือข้อควรพิจารณาประกอบ


 




    ฐานพระจะไม่เรียบร้อย ดูขรุขระเพราะการเทด้วยวิธีดังกล่าว ถ้าไม่เรียบร้อยมาก ๆ ช่างก็จะเอามาแต่งโดยการใช้ตะไบหยาบ ๆ แทงให้เรียบ ส่วนมากจะแทงไม่เรียบเสียทีเดียว คือ แต่งพอให้วางตั้งได้เท่านั้น โปรดพิจารณารอยตะไบจะเป็นรอยหยาบ ๆ และเหมือน ๆ กันแทบทุกองค์

    เดิมทีมีผู้เข้าใจว่า พอถอดพิมพ์เป็นหุ่นขี้ผึ้งแล้ว นายช่างได้นำหุ่นที่ถอดออกแล้วไปวางไว้บนตะแกรงลวด จึงทำให้เป็นรอยเช่นนั้น แต่ต่อมาเมื่อได้พิจารณาโดยตลอดแล้วจึงเห็นว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถ้ารอยที่เป็นร่องที่ฐานเกิดจากการวางหุ่นที่ไม่แข้งตัวดีลงบนตะแกรงลวด การที่จะปรากฎรอยนี้บนโลหะได้จะต้องเป็นการเททองแบบมีเดือยชนวน ถ้าไม่มีเดือยจะทำให้เป็นรอยแบบนี้ตั้งแต่เป็นหุ่นขี้ผึ้งไม่ได้ เพราะพิมพ์ขี้ตานั้นเขาเทแบบกันเบ้าหงายขึ้น คือ ก้นเบ้าเปิด ร่องรอยบนหุ่นขี้ผึ้งจะหายไป ผิวล่างที่ฐานก็จะเป็นผิวของโลหะที่เทลงไป เพราะบล็อคจะถูกคว่ำเอาหัวลงเทโลหะเข้าไปทางก้น

    ส่วนพระพิมพ์นิยมหรือพิมพ์เบ้าทุบ ในที่นี้จะไม่พูดถึง เพราะมีการตกแต่งมากทั้งการแต่งหุ่นขี้ผึ้งและตกแต่งหลังเททองแล้ว ส่วนใหญ่จะพิจารณาว่าเป็นของแท้ก็ที่คราบและผิวที่แสดงความเก่าให้ปรากฎอยู่ เท่านั้น

    พระพิมพ์ขี้ตาบางองค์ถูกฝนจนฐานเรียบสนิทเลยก็มี แต่ก็ต้องพิจารณาพิมพ์ด้านบนด้วยว่าเป็นของแท้หรือไม่ โปรดพิจารณาดูหน้าตาให้ดี พระพิมพ์นี้ความจริงปลอมแปลงยากมากเพราะเป็นพระพิมพ์ตื้น และบริเวณด้านหลังตรงไหล่ซ้ายขององค์พระจะมีลักษณะลาดเอียงไปทางหูซ้าย โปรดจำพิมพ์นี้ให้แม่น ลักษณะทั้ง 2 ประการนี้เป็นเอกลักษณ์ของพระพิมพ์ขี้ตาที่ถูกต้อง


 
จุดตายที่สำคัญที่จะขอนำมาบอกกล่าวนั้น ไม่ใช่ตำหนิพิมพ์ทรงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของแร่ธาตุสำคัญบางอย่างที่อยู่ในกระแสโลหะผสมในพระรูปหล่อ หลวงพ่อเงินที่ยังไม่มีใครเลียนแบบได้ เป็นจุดตายยากต่อการปลอมแปลง นักสะสมระดับแนวหน้าทั้งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และในวงการบางท่านเก็บเป็นความลับเฉพาะตัวใช้เป็นหลักในการพิจารณาพระ เครื่องหลวงพ่อเงินมานานแล้ว นั่นคือนอกจากกระแสโลหะผสมหลายอย่างทำให้ผสมกลมกลืนแตกต่างจากพระทองเหลือง ทั่วไป สนิมของพระหลวงพ่อเงินส่วนหนึ่งจึงออกน้ำตาล กระแสแบบทองดอกบวบ เพราะมีส่วนผสมของทองคำแน่นอนประการสำคัญในกระแสโลหะผสมนี้เชื่อกันว่ามีแร่ ธาตุศักดิ์สิทธิ์ ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพระเครื่องเมืองพิจิตรผสมอยู่อาจเป็นแร่เหล็ก น้ำพี้ หรือผงแร่เหล็กไหลก็อาจเป็นไปได้

   ร่องรอยแร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์นี้ เมื่อนำพระหลวงพ่อเงินแท้ ๆ มาส่องดูอย่างละเอียด ส่วนใหญ่จะพบว่ามีอยู่ตามผิวจริงไม่มากก็น้อย นักสะสมพระหล่อโบราณบางท่านแสดงทัศนะว่าอาจเป็นคราบเศษเบ้าดินที่หลุดออกจาก ดินนวลหุ้มหุ่นเทียนเข้าไปในเนื้อพระ แต่คนพิจิตรส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นแร่ศักดิสิทธิ์ที่ผสมลงไปไม่ใช่คราบเศษเบ้า ดินเพราะมีขนาดสันฐานแตกต่างกันไป ที่พบเห็นเป็นสีเทาปนน้ำตาลเข้มคล้ายแร่เหล็กมีความแข็งในตัวและทนไฟ

 



พระหลวงพ่อเงิน(จอบเล็ก-เนื้อทองผสมแก่ทองคำ)หน้า-หลัง





เป็นอีกองค์ที่มีเนื้อผมทองคำ แก่ทอง มองดูเหลืองอร่ามน่าเคารพน่าบูชาอย่างยิ่ง

พระหลวงพ่อเงินพิมพ์จอบเล็ก  เป็นพระที่สร้างในยุคต้นๆ  ตามประวัติว่ากันว่า สร้างก่อนวัตถุมงคลรูปหล่ออื่นๆ เช่น พิมพ์ขี้ตา หรือพิมพ์นิยมเสียอีก  สร้างออกมาเป็นจำนวนหลักพันต้นๆ  แบ่งออกเป็นพิมพ์แข้งตรง กับพิมพ์แข้งติด เพื่อสะดวกในการพิจารณา ส่วนโลหะที่ใช้ในการหลอมมีตั้งแต่ทองเหลืองขันลง หิน   ทองเหลืองฝาบาตร  และทองคำจากผู้มีความเคารพและศรัทธาในตัวหลวงพ่อ  ได้ร่วมกันบริจาคใส่ลงไปในการหล่อด้วย  ดังนั้นที่ค้นพบจะมีทั้งเนื้อทอง เหลืองธรรมดาหรือเนื้อทองผสมอยู่ไม่มากก็น้อย แต่องค์นี้เป็นในกรณีพิเศษ  คือเป็นเนื้อผสมแก่ทองคำมากเป็นพิเศษ  สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นองค์ใกล้ๆสุดท้าย    เป็นเนื้อทองคำติดจากก้นเบ้าหลอมที่เหลือจมอยู่ข้างล่าง  เนื่องจากยังไม่ทันจะหลอมละลายในตอนเทหล่อองค์ต้นๆ  นั่นเอง

         แต่ยังไงก็ตาม นอกจากในการพิจารณาทางด้านพิมพ์ทรง และความเก่าของเนื้อโลหะแล้ว   ยังมีคราบเบ้า  ที่เป็นคราบผิวสีดำอมน้ำตาล หรือสีน้ำตาลไหม้  ซึ่งเป็นผิวที่เกิดจากแม่พิมพ์ที่ทำขึ้นจากดินขี้วัวไหม้ไฟ  จะติดเป็นคราบอยู่ตามผิวอยู่ซอกลึกๆโดยทั่วไป   ถือเป็นจุดในการพิจารณาพระ หล่อแบบโบราณ    

 

        และจอบเล็กหลวงพ่อเงินนั้น จะมีห่วงปลิงที่ถูกดัดพับจนงอโค้ง โดยปลายของห่วงจะมาเชื่อมติดกับขอบของเหรียญในทางด้านบน ซึ่งมองดูมีลักษณะคล้ายกับปากของปลิงที่เกาะดูดอยู่  และมักจะมีรอยเชื่อมติดที่ไม่ค่อยหนามาก  โดยอาจจะมีรอยแต่งด้วยตะไบบ้าง   ส่วนผิวเนื้อทางด้านหลังนั้นจะมีรอยหดย่นตัว  และลักษณะธรรมชาติของการเทหล่อด้วยมือ  คืออาจจะมีเนื้อเกินขึ้นมา หรืออาจเป็นหลุมเป็นบ่อบ้าง  แต่ถ้าในบางองค์ที่หล่อเป็นเนื้อเกินไปมากๆ   อาจจะมีรอยแต่งด้วยตะไบก็ได้  ส่วนการพิจารณาพิมพ์ทรงโดยมีภาพประกอบคำบรรยายร่วมตามลิงค์ข้างล่างนี้

สนใจโทร.09-0024-1338

หลวงพ่อเงิน จอบเล็ก เนื้อทองผสมแก่ทอง





     พระหลวงพ่อเงิน(จอบเล็ก)

          พระหลวงพ่อเงินพิมพ์จอบเล็ก  เป็นพระที่สร้างในยุคต้นๆ  ตามประวัติว่ากันว่า สร้างก่อนวัตถุมงคลรูปหล่ออื่นๆ เช่น พิมพ์ขี้ตา หรือพิมพ์นิยมเสียอีก  สร้างออกมาเป็นจำนวนหลักพันต้นๆ  แบ่งออกเป็นพิมพ์แข้งตรง กับพิมพ์แข้งติด เพื่อสะดวกในการพิจารณา ส่วนโลหะที่ใช้ในการหลอมมีตั้งแต่ทองเหลืองขันลง หิน   ทองเหลืองฝาบาตร  และทองคำจากผู้มีความเคารพและศรัทธาในตัวหลวงพ่อ  ได้ร่วมกันบริจาคใส่ลงไปในการหล่อด้วย  ดังนั้นที่ค้นพบจะมีทั้งเนื้อทอง เหลืองธรรมดาหรือเนื้อทองผสมอยู่ไม่มากก็น้อย   องค์นี้จะมีเนื้อทองคำติดจากก้นเบ้าหลอมที่เหลือจมอยู่ข้างล่าง  เนื่องจากยังไม่ทันจะหลอมละลายในตอนเทหล่อองค์ต้นๆ  นั่นเอง

         แต่ยังไงก็ตาม นอกจากในการพิจารณาทางด้านพิมพ์ทรง และความเก่าของเนื้อโลหะแล้ว   ยังมีคราบเบ้า  ที่เป็นคราบผิวสีดำอมน้ำตาล หรือสีน้ำตาลไหม้  ซึ่งเป็นผิวที่เกิดจากแม่พิมพ์ที่ทำขึ้นจากดินขี้วัวไหม้ไฟ  จะติดเป็นคราบอยู่ตามผิวอยู่ซอกลึกๆโดยทั่วไป   ถือเป็นจุดในการพิจารณาพระ หล่อแบบโบราณ    

 

        และจอบเล็กหลวงพ่อเงินนั้น จะมีห่วงปลิงที่ถูกดัดพับจนงอโค้ง โดยปลายของห่วงจะมาเชื่อมติดกับขอบของเหรียญในทางด้านบน ซึ่งมองดูมีลักษณะคล้ายกับปากของปลิงที่เกาะดูดอยู่  และมักจะมีรอยเชื่อมติดที่ไม่ค่อยหนามาก  โดยอาจจะมีรอยแต่งด้วยตะไบบ้าง   ส่วนผิวเนื้อทางด้านหลังนั้นจะมีรอยหดย่นตัว  และลักษณะธรรมชาติของการเทหล่อด้วยมือ  คืออาจจะมีเนื้อเกินขึ้นมา หรืออาจเป็นหลุมเป็นบ่อบ้าง  แต่ถ้าในบางองค์ที่หล่อเป็นเนื้อเกินไปมากๆ   อาจจะมีรอยแต่งด้วยตะไบก็ได้

สนใจโทร 09-0024-1338

หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน พิมพ์ขี้ตา เนื้อเงิน



หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิมพ์ขี้ตา เนื้อเงิน สุดยอดรูปหล่ออันดับ1 ของวงการพระเครือง

พระรูปหล่อหลวงพ่อเงินพิมพ์ขี้ตา เป็นพระหล่อแบบโบราณ ซึ่งได้สร้างอยู่ในช่วงยุคต้นๆ  โดยจะมีช่างมาแกะแม่พิมพ์ถวายและก็สร้างกันขึ้นที่วัด แม่พิมพ์ได้ทำขึ้นจากดินขี้วัว และนำมาประกบกัน เวลาหล่อจะเทหยอดในทางก้นฐาน

 

     ดังนั้นที่ใต้ฐานพระรูปหล่อหลวงพ่อเงินพิมพ์ขี้ตา  นอกจากจะมีรอยหดตัวแบบหน้าตังแล้ว ยังอาจจะมีรอยเป็นหลุมเป็นบ่อ อันเกิดจากการเทหล่อไม่เต็ม หรือมีรอยเนื้อเกินเพราะเทหล่อล้นก็มี และในบางองค์ก็อาจจะมีรอยตะไบโบราณ เพื่อแต่งเอาเนื้อที่เกินออกไป ทั้งตามใต้ฐาน หรือตามองค์พระ 

 

     ส่วนการพิจารณาพิมพ์ทรง เริ่มจากพระพักตร์ของหลวงพ่อ แก้มข้างขวาท่านจะตอบเข้าเล็กน้อย หน้าผากจะโหนก ใต้เปลือกตาข้างซ้ายจะมีก้อนเนื้อเกิน โดยมีช่องว่างเว้นจากกันกับเปลือกตา รูปปากจะเหมือนกับพระจันทร์เสี้ยว มุมปากข้างซ้ายยกขึ้น คางจะเป็นสันมองยื่นออกมาเล็กน้อย ซอกคอจะลึก หน้าอกจะตั้ง ตัวท่านจะนั่งตรง ด้านหลังเศียรทุยออก และตั้งแต่ช่วงใต้ท้ายทอย ไปที่ถึงหลังหัวไหล่ทางด้านหลัง จะมีกล้ามเนื้อมองเห็นเป็นเนินสันไหล่ และมีแนวร่องลึกที่ถูกจีวรรัด ที่ใต้เนินสันไหล่นี้ ยาวเป็นร่องไปตลอดจนถึงช่วงแยก แบ่งระหว่างต้นแขนกับจีวรที่ห่มองค์ท่าน โดยถัดต่ำลงมา จะมองเป็นช่วงเนินสะโพกทางด้านหลัง ผายออกเล็กน้อย มองมีเนื้อช่วงก้นกับสะโพกของหลวงพ่อ เน้นพอเป็นสัดส่วน แต่ช่วงหลังต้องนั่งตรงไม่แอ่นยุบเข้า หรือว่านั่งแอ่นไปทางด้านหน้า




     และเนื่องจากพระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน มีเบ้าแม่พิมพิ์ที่ทำขึ้นจากดินขี้วัว ดังนั้นเรามักจะพบคราบดินขี้เบ้า หรือคราบผิวไฟ ติดตามผิวพระ ซึ่งอาจมีมากน้อยต่างกันไป ในแต่ละองค์ และก็จะมีสนิมแดงที่ขึ้นจับกินขุมแน่น มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลแห้ง ที่ถูกขับปุดออกจากข้างในเนื้อ

สนใจโทร. 090-0241338